อีกปัญหาหนึ่งของมนุษย์คอนโดคือ โดยมากจะเป็นคนทำงานที่ต้องเดินทางบ่อย และจำเป็นต้องทิ้งต้นไม้ไว้กับห้องเป็นระยะเวลานาน เปิดห้องมาอีกทีต้นไม้ก็อาการย่ำแย่แล้ว พื้นที่สีเขียวที่วาดหวังไว้เลยไม่เคยเกิดขึ้นได้สักที ซึ่งปัญหานี้ แก้ไขได้ด้วยการเลือกพันธุ์ไม้ปลูกในคอนโดที่มีคุณลักษณะที่สามารถปลูกได้ดีในพื้นที่จำกัด และสภาพแวดล้อมอย่างห้องคอนโด ที่สำคัญคือควรดูแลง่าย เหมาะสำหรับคนทำงานที่มีเวลาน้อย
ถ้านึกไม่ออกว่าจะปลูกอะไรดี มีมาแนะนำให้ 7 ชนิด ดังนี้
1. เศรษฐีเรือนใน เป็นต้นไม้ที่มีจุดเด่นที่พุ่มใบสวย ลักษณะใบเรียวยาว ขอบใบสีเขียวมีเส้นขาวตรงกลาง ถ้าเลี้ยงได้ดีจะมีพุ่มแน่นสวย วางตรงมุมไหนของห้องก็ดูดี มีสรรพคุณช่วยดูดสารพิษในอาคารได้ ปลูกง่ายด้วยการนำต้นอ่อนมาลงในดินร่วนปนทราย ที่ผสมเศษอิฐให้เกิดความโปร่ง เหมาะสำหรับคนปลูกที่มักทิ้งห้องไปนาน ๆ เพราะไม่ค่อยชอบน้ำ แค่รดสัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอ และให้วางในที่แสงแดดรำไร แถมยังมีความเชื่อว่า ปลูกว่านเศรษฐีเรือนในไว้ จะช่วยป้องกันอันตรายได้
2. ปาล์มใบไผ่ มีลักษณะคล้ายปาล์มไผ่ แต่มีขนาดเล็กและใบอ่อนช้อยกว่า ใบและก้านใบมีสีเขียว ถ้านำมาปลูกเป็นไม้ประดับในอาคารจะมีความสูงเพียง 1-1.80 เมตร เป็นพืชที่เติบโตค่อนข้างช้า แต่เลี้ยงง่าย ทนทาน แม้ว่าจะขาดแคลนน้ำ แสงแดด หรือตั้งอยู่ในที่ทึบแสงเป็นเวลานาน ก็ยังอยู่ได้อย่างดี ถ้าปลูกในห้องรดน้ำแค่สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็พอ เป็นพันธุ์ไม้ปลูกในคอนโดที่ได้รับการพิสูจน์ว่า สามารถดูดสารพิษในอากาศภายในห้องได้ มีอัตราการคายความชื้นสูง เพิ่มความสดชื่นให้กับห้องได้
3. ลิ้นมังกร สามารถเติบโตได้ในทุกสภาพแวดล้อม ทนแล้งได้ดี ควรปลูกในดินร่วนปนทรายระบายน้ำดี รดน้ำเช้าเย็นเพื่อให้ใบสวยสดใส ต้องการแสงแดดประมาณ 50% หรือแสงแดดเพียงครึ่งวัน แต่ถ้าปลูกในบริเวณที่มีแสงแดดส่องตลอดวันก็สามารถ เพียงแต่ใบจะหยาบกร้าน แผ่นบางซีดเหลือง ต้องหมั่นรดน้ำ เป็นพันธุ์ไม้ปลูกในคอนโดที่องค์การนาซ่ายอมรับว่าช่วยดูดซับสารพิษในอากาศได้ดี เหมาะจะปลูกเป็นไม้กระถาง และไม้แคระเพื่อใช้ประดับห้องเพิ่มพื้นที่สีเขียว
4. จั๋ง เป็นพืชในตระกูลปาล์มที่มีใบสวยเหมาะสำหรับการตกแต่งห้องสไตล์ Tropical มีการเจริญเติบโตค่อนช้า จึงไม่ต้องวุ่นวายตัดแต่ง หรือเปลี่ยนกระถางบ่อย ๆ เลี้ยงง่ายทนแล้งได้ดี เจริญเติบโตได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้ง หรือขาดน้ำเป็นเวลาหลาย ๆ วัน ทนต่อโรคและแมลงได้ดี แต่ต้องการแสงแดดมากหน่อย จึงควรปลูกไว้ในบริเวณที่แสงแดดส่องถึง
5. กวักมรกต มือใหม่อยากสร้างพื้นที่สีเขียวควรปลูกกวักมรกตอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงมีรูปทรง และลักษณะใบที่สวยงาม จะตั้งบนโต๊ะทำงาน หรือวางบนพื้นห้องก็ดูดีไปหมด ยังดูแลได้ง่ายมาก ปลูกในร่มก็สามารถเจริญเติบโตอย่างดี ไม่ชอบที่ชื้นแฉะ ชอบดินแห้ง ๆ จึงควรปลูกในดินร่วนระบายน้ำได้ดี รดน้ำอาทิตย์ละครั้ง หรือ 2 อาทิตย์ครั้ง ก็ยังสวยงามอยู่ ดังนั้นให้ดินแห้ง หรือยกกระถางแล้วเบากว่าปกติ จึงค่อยรดน้ำจะดีที่สุด
6. พลูด่าง มีอยู่หลายพันธุ์ให้เลือกปลูก แต่ถ้าจะปลูกในห้องมักเลือก 2 พันธุ์นี้ คือ พลูด่างราชินีหินอ่อน และพลูด่างราชินีสีทอง ซึ่งปลูกง่าย และมีใบที่สวยงามเหมือนกัน โดย
– พลูด่างราชินีหินอ่อน เป็นพลูด่างขนาดกลาง มักปลูกในกระถางเป็นหลัก หรือบางทีก็ในแปลงจัดสวน
– พลูด่างราชินีสีทอง เป็นพันธ์ที่นิยมปลูกทั้งในกระถาง แจกัน แปลงสวน เนื่องจากลำต้นมีขนาดเล็ก ทน และเติบโตได้ดีแม้ในที่แสงน้อย
พลูด่างนิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่งหรือลำต้นมากที่สุด เพราะสามารถชำติดได้เร็ว โอกาสตายน้อย ชำได้ทั้งในวัสดุเพาะหรือในน้ำ ถ้าปลูกในแจกันโดยใช้น้ำแทนดิน อาจใช้น้ำเพียงอย่างเดียว หรือน้ำละลายปุ๋ยเคมีก็ได้ หากใช้น้ำอย่างเดียวควรเป็นน้ำบ่อหรือน้ำบาดาลที่ใส เพราะจะมีแร่ธาตุเสริมการเจริญเติบโตมากกว่าน้ำประปา
7. แก้วกาญจนา เป็นพันธุ์ไม้ที่เหมาะสำหรับปลูกในห้องอีกชนิดหนึ่ง เนื่องจากปลูกเลี้ยงง่าย ทนทานแม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้ง มีความชื้นต่ำ แสงสว่างเพียงเล็กน้อยก็เติบโตได้ดี จึงไม่จำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่มาก มีความสามารถในการดูดสารพิษระดับปานกลาง แต่มีอัตราการคายความชื้นสูง จึงทำให้บ้านทั้งเขียวและชุ่มชื่นขึ้น
เมื่อเลือกต้นไม้ที่ต้องการจะปลูกได้แล้ว ควรคำนึงเรื่องการจัดวางต้นไม้ด้วย โดยเฉพาะถ้าห้องคอนโดคุณมีขนาดเล็ก ก็ไม่ควรจะยัดต้นไม้เข้าไปมากเกิน เพราะแทนที่จะดูดีกลับจะดูรกตา ขนาดต้นไม้ก็ควรให้เหมาะสมกับห้อง กระถางไม่ควรใหญ่เกิน จนทำให้พื้นที่ห้องดูคับแคบ เพียงแค่นี้คุณก็จะได้พื้นที่สีเขียวที่ทำให้สดชื่น และยังฟอกอากาศให้ได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก major.co.th