natrada12, Author at MDPC

สัตว์เลี้ยงแสนรัก ที่เลี้ยงในคอนโดได้


สัตว์เลี้ยงแสนรัก ที่เลี้ยงในคอนโดได้

– หนูแฮมสเตอร์​
เป็นสัตว์ฟันแทะที่ได้รับความนิยมอย่างมากในบ้านเรา สามารถหาซื้อได้ตามหลากหลายที่ มีราคาไม่แพง ซื้อมาเป็นสัตว์เลี้ยงตัวแรกได้อย่างไม่ต้องลังเล รวมไปถึงหนูแฮมสเตอร์ยังเป็นสัตว์เลี้ยงที่ใช้พื้นที่น้อย ไม่ส่งเสียงรบกวน อย่างน้อยก็มีแค่เสียง จี๊ด ๆ นิด ๆ หน่อย ๆ เป็นระยะ เหมาะกับการเลี้ยงในห้องคอนโด​

– เม่นแคระ​
เม่นแคระเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย มีนิสัยฉลากเฉลียว แต่เคลื่อนที่ช้า เวลาเคลื่อนย้ายไปไหนจะค่อย ๆ ไป มีท่าทางการเดินคล้ายกับหมู แต่ถ้าตกใจ หรือเจออันตรายขึ้นมาก็สามารถซอยเท้าถี่ยิบ หรือไม่ก็หยุดนิ่งแล้วนอนขดตัวเป็นลูกฟุตบอลจนกว่าจะแน่ใจว่าปลอดภัยจากภัยคุกคามถึงจะเริ่มคลายตัวและยืดตัวออกมา​

– ชินชิลล่า​
ชินชิลล่าเป็นสัตว์ฟันแทะที่มีลักษณะขนาดรูปร่างคล้ายหนูกับกระต่าย มีหูกางใหญ่ อุ้งเท้าออกแบบมาเพื่อการเดินบนแผ่นหิน มีหลากหลายสีสันเช่น สีเทา สีเทาอ่อน สีดำ หางยาวเป็นพวงคล้ายกระรอก ส่วนขนมีลักษณะแน่นและหนา เพื่อป้องกันตัวเองจากอากาศหนาวเย็นบนเทือกเขาสูง สำหรับนิสัยของชินชิลล่านั้นจะชอบแทะวัสดุไม้ มีนิสัยไม่ค่อยดุ ไม่กัด

– ปลาทอง​
ปลาสวยงามที่รู้จักกันดี และมีความเชื่อว่าเป็นปลามงคล หากเลี้ยงแล้วจะช่วยเสริมฮวงจุ้ยด้านโชคลาภการเงิน มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน และปัจจุบันมีการเพาะพันธุ์จนมีมากกว่า 200 ชนิด ส่วนลักษณะก็จะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ จุดเด่นที่ทำให้ปลาทองแต่ละสายพันธุ์แตกต่างกันก็คือ ตา ลำตัว ครีบหลัง ครีบก้น และครีบหาง มีทั้งหางเดี่ยว หางเป็นพวง และหางคู่ นอกจากนั้นยังเป็นปลาที่มีนิสัยเป็นมิตรกับคน​

– แมว​
แมวเป็นสัตว์เลี้ยงในคอนโดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีขนาดเล็ก เลี้ยงง่าย ดูแลไม่ยาก ไม่ส่งเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้าน และที่สำคัญสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยสายพันธุ์แมวที่นิยมได้แก่ แมวเปอร์เซีย, แมวสก็อตติช, โฟลด์, ขาวมณี เป็นต้น ​

– กระต่าย​
กระต่าย เป็นอีกหนึ่งพันธ์ุสัตว์เลี้ยงในคอนโดที่มีขนาดเล็ก มีนิสัยรักสงบ และไม่ส่งเสียงรบกวน สามารถเลี้ยงในห้องคอนโดได้อย่างสบาย โดยสายพันธุ์กระต่ายที่นิยมได้แก่ Mini Rex กระต่ายตัวเล็กนิสัยอ่อนหวาน, holland Lop กระต่ายจิ๋ว ขนฟู หูห้อย น่ากอด, Florida White กระต่ายสีขาวผ่อง ขนยาวดูสง่างาม เป็นต้น​

– สุนัข​
เป็นอีกหนึ่งสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงในคอนโด แต่โดยส่วนใหญ่แล้วการเลี้ยงสุนัขในคอนโดควรจะเป็นสุนัขพันธุ์เล็ก เช่น ปั๊ก ชิวาวา ปอมเมอเรเนียน เป็นต้น เพราะเลี้ยงดูได้ง่าย ไม่ส่งเสียงดังจนมากเกินไป

หน้าที่ของนิติบุคคลอาคารชุดที่เราควรรู้

หน้าที่ของนิติบุคคลอาคารชุดที่เราควรรู้

นิติบุคคลอาคารชุด หรือ นิติบุคคลคอนโดถือเป็นผู้ที่มีบทบามสำคัญในการดูแลให้คอนโดมีความเรียบร้อย และดำเนินการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในคอนโด ตั้งแต่ปัญหาเพื่อนบ้าน หรือพื้นที่ส่วนกลาง ลองมาทำความรู้จักกับนิติบุคคลอาคารชุดกันว่ามีหน้าที่อะไรบ้าง​

1. จัดการเรื่องต่างๆ เพื่อดูแลทรัพย์สินส่วนกลางให้อยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งานอยู่เสมอเพื่อประโยชน์ของเจ้าของร่วม
2. จัดซื้อหรือจัดหาทรัพย์สินตลอดจนให้บริการความสะดวกแก่เจ้าของร่วมตามกฎข้อบังคับของคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุด​
3. เรียกเก็บเงินทุน หรือ ค่าส่วนกลาง จากเจ้าของร่วมเพื่อนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาทรัพย์สินส่วนกลาง​
4. ดำเนินการตามมติของคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุด โดยต้องไม่ขัดต่อข้อบังคับของนิติบุคคลและพระราชบัญญัติอาคารชุด​
5. ควบคุมดูแลการใช้ประโยชน์ทั้งภายในห้องชุดและการใช้ทรัพย์สินส่วนกลาง​
6. เป็นผู้แทนของนิติบุคคลอาคารชุดและมีอำนาจในการติดตาม ทวงหนี้ ฟ้องร้อง บังคับคดี โดยอยู่ภายในขอบเขตของพระราชบัญญัติอาคารชุด ข้อบังคับของนิติบุคคลอาคารชุด หรือมติที่ประชุมใหญ่เจ้าของร่วม​
7. จัดให้มีการประชุมใหญ่ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของนิติบุคคล

8 ข้อควรรู้ ‘ก่อนเลี้ยงสัตว์ในคอนโด’ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา​​​

8 ข้อควรรู้ ‘ก่อนเลี้ยงสัตว์ในคอนโด’ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา​​​

ณ ปัจจุบัน บริษัทเดเวลอปเปอร์หลายเจ้าก็ได้ออกแบบโครงการใหม่หลายที่ให้มีแนวคิดแบบ Pet-Friendly เพื่อตอบโจทย์เทรนด์การเลี้ยงสัตว์ที่นิยมกันมากขึ้น โดยในบริเวณพื้นที่ส่วนกลางของคอนโดเหล่านี้ก็จะมีโซนสำหรับสัตว์เลี้ยง สามารถพาน้องหมาน้องแมวไปเดินเล่น ไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้​
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเลี้ยงสัตว์ในห้องคอนโดของตัวเองนั้น ก็ควรจะต้องพิจารณาให้ดีซะก่อน เพราะว่าอาจจะก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการส่งกลิ่นเหม็น ส่งเสียงดังรบกวน หรือทำของพังเสียหาย ทำให้กลายเป็นปัญหาวุ่นวายระหว่างผู้พักอาศัยบนคอนโด ดังนั้นMDPC จะพาทุกคนไปดูกันว่าสิ่งที่ควรรู้ก่อนเลี้ยงสัตว์ในคอนโด เพื่อให้อยู่ร่วมกับน้อง ๆ ได้อย่างสบายใจ มีอะไรที่เราควรทำบ้าง

1.ศึกษากฎระเบียบการเลี้ยงสัตว์ในคอนโด ​
ก่อนตัดสินใจเลี้ยงสัตว์ในคอนโด สิ่งแรกที่ควรทำคือ ศึกษากฎระเบียบเรื่องการเลี้ยงสัตว์ของคอนโดให้ละเอียดก่อน โดยคอนโดส่วนใหญ่ก็จะไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ แต่สำหรับคอนโดที่มีแนวคิดแบบ Pet-Friendly ก็จะมีเงื่อนไขต่าง ๆ ในการเลี้ยงสัตว์ที่ผู้อยู่อาศัยทุกคนต้องศึกษาให้ครบถ้วน

2.บทลงโทษ และการดำเนินการของนิติบุคคล
ปกติเมื่อเกิดปัญหาจากสัตว์เลี้ยง นิติบุคคลจะแจ้งเตือนตามลำดับ เริ่มตั้งแต่การแจ้งด้วยการบอกกล่าวทางวาจา การทำจดหมายแจ้งเตือน หากเราที่เป็นผู้พักอาศัยยังไม่แก้ไขปัญหาที่เกิดจากสัตว์เลี้ยงของเรา ทางนิติบุคคลก็จะเรียกเก็บค่าปรับ​

3.ข้อควรรู้ ‘กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ของสัตว์เลี้ยง’​
กลิ่นไม่พึงประสงค์จากสัวต์เลี้ยงอย่างเช่น ปัสสาวะ หรืออุจจาระจากสัตว์เลี้ยง เราควรศึกษาให้ดี โดยสามารถสอบถามกับทางนิติบุคคลว่าเราควรนำไปทิ้งในจุดไหน ที่จะไม่ก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพื่อไม่ให้เป็นการเดือดร้อนผู้พักอาศัยคนอื่น ซึ่งเจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคนต้องดูแลจัดเก็บสิ่งปฏิกูลให้เรียบร้อย และอย่าลืมเช็ดบริเวณพื้นด้วยน้ำยาทำความสะอาดด้วยทุกครั้ง​

4.ฝึกสัตว์เลี้ยงไม่ให้ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น
ปัญหาเรื่องสัตว์เลี้ยงส่งเสียงดัง เรียกได้ว่าเป็นปัญหาอันดับต้น ๆ ของการเลี้ยงสัตว์ในคอนโด ดังนั้นเจ้าของจะต้องให้ความใส่ใจ สำหรับคนที่เลี้ยงสุนัขทำได้โดยการไม่ให้ความสนใจเวลาน้องเห่า ซึ่งจะเป็นการฝึกให้รู้ว่าไม่ควรเห่าเสียงดัง ทำได้โดยการไม่ให้ความสนใจเวลาน้องเห่า หรือฝึกให้ชินกับสิ่งเร้าต่าง ๆ และสำหรับคนที่เลี้ยงแมว สามารถพาไปทำหมันเพื่อไม่ให้น้องส่งเสียงร้องจากอาการ ‘ติดสัตว์’ ที่จะเกิดขึ้นในทุก ๆ 3-4 อาทิตย์ การฝึกสัตว์เลี้ยงต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากไม่ฝึกอย่างสม่ำเสมอ น้อง ๆ อาจจะลืมสิ่งที่เรียนรู้จากเราไปได้

5.ฝึกไม่ให้ทำเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของอื่น ๆ เสียหาย​
ถ้าเกิดว่าสัตว์เลี้ยงของเราไปสร้างความเสียหายกับเฟอร์นิเจอร์ ข้างของต่าง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ส่วนกลางของคอนโด ก็จะตามมาด้วยค่าเสียหายสูงลิบลับ สำหรับวิธีการแก้ไขปัญหานี้ สามารถทำได้โดยการฝึกฝนสัตว์เลี้ยง หากเป็นสุนัขสามารถฝึกโดยการตักเตือน พาไปออกกำลังกายแก้เครียด หรือหาของเล่นมาให้กัดแทะ ส่วนใครที่เลี้ยงแมว ก็ขอแนะนำให้ซื้อของเล่นสำหรับฝนเล็บมาไว้ให้น้องลับเล็บกัน เพื่อที่จะไม่ไปขีดข่วนสิ่งของอย่างอื่น​

6.การใช้ใช้สายจูง​
ถึงแม้ว่าคอนโดหลายโครงการที่เป็นแบบ Pet-Friendly จะมีโซนสัตว์เลี้ยงในส่วนกลางให้พาน้องหมาน้องแมวไปวิ่งเล่นได้ สิ่งที่เจ้าของทุกคนห้ามลืมก็คือ ‘การสายจูง’ เพราะว่าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยฝึกน้อง ๆ ไม่ให้ทำทุกอย่างตามใจ และยังช่วยในเรื่องความปลอดภัยทั้งกับตัวน้องและเพื่อนสัตว์เลี้ยวตัวอื่น ๆ อีกด้วย

7.ต้องจัดพื้นที่ระเบียงให้ปลอดภัย​
หลายคนที่เลี้ยงสัตว์อยู่คอนโดพลาดมานักต่อนัก การมีประตูก่อนออกไปยังระเบียงไม่ได้เป็นสิ่งที่การันตีว่าสัตว์เลี้ยงของเราจะอยู่ในห้องคอนโดตลอดเวลา ในบางครั้งหากเราลืมเปิดประตูทิ้งไว้ น้อง ๆ ก็อาจจะหลุดรอดออกมาและกระโดดออกไปนอกระเบียงได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุการสูญเสียสัตว์เลี้ยง ควรจัดพื้นที่ระเบียงให้ปลอดภัย อาจจะทำโดยการติดตั้งตะแกรงเหล็ก ตาข่าย หรือระแนงไม้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับสัตว์เลี้ยง

8.ควรเอาใจใส่ และมีความรับผิดชอบต่อสัตว์เลี้ยง​
การเลี้ยงสัตว์ล้วนต้องอาศัยความเอาใจใส่และมีเวลาในการดูแลทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการพาไปเดิน การให้อาหาร อาบน้ำ ทำความสะอาด ตลอดจนพาไปรักษาพยาบาล และทั้งหมดนี้ก็เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกด้วย ดังนั้นหากเราไม่สามารถแบ่งเวลาให้กับสัตว์เลี้ยงได้ ก็ยังไม่ควรเลี้ยงโดยเด็ดขาด และสำหรับคนที่มีความพร้อมในการเลี้ยงสัตว์ก็อย่าลืมเลี้ยงดูน้อง ๆ ด้วยความรอบคอบ

ปล่อยเช่าเอง หรือใช้ Agent เลือกอย่างไรดี

ปล่อยเช่าเอง หรือใช้ Agent เลือกอย่างไรดี​​

ในช่วงที่ผ่านมาผู้คนหันมาเลือกลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวด้วยตัวเองกันมากขึ้น ทั้งการปล่อยเช่า ซื้อขายใบจองห้อง ซื้อคอนโดมิเนียมหรือบ้านมือสองมารีโนเวทแล้วขาย เพื่อการเก็งกำไรในระยะสั้น แต่บางทีอาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับยุคสมัยนี้ ยิ่งต้องเผชิญกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การหาผู้ซื้อ ผู้เช่า ยากยิ่งกว่าช่วงเวลาปกติ แล้วจะทำอย่างไรดีเมื่อเรามีคอนโดว่างๆ ไว้ แต่กลับไม่ได้สร้างผลตอบแทนให้กับเรา หากจะเลือกให้เอเจนท์หาลูกค้าให้ดีหรือไม่ วันนี้MDPCมีคำตอบ​

-เอเจนท์ให้คำปรึกษาทุกขั้นตอนของการปล่อยเช่า​
เอเจนท์จะมีประสบการณ์ เพื่อให้คำแนะนำในทุกขั้นตอนของการปล่อยเช่าแก่เจ้าของคอนโด ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งห้องให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย การถ่ายรูปห้องให้ดึงดูดจูงใจ รวมถึงการตั้งราคาปล่อยเช่าให้เหมาะสม​

-ช่วยในการหาผู้เช่า​
หน้าที่หลักๆ ของเอเจนท์ คือการหาผู้เช่าให้กับเจ้าของคอนโด โดยข้อได้เปรียบของเอเจนท์ คือการมีคอนเนคชั่นที่ดี มีฐานข้อมูลลูกค้าที่ตรงกับโจทย์ของเจ้าของคอนโด รวมทั้งมีการลงประกาศเช่าคอนโดผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากกว่า​

-ประหยัดเวลา​
การใช้บริการเอเจนท์ อาจจะเหมาะเป็นอย่างยิ่ง สำหรับเจ้าของคอนโดที่ไม่ค่อยมีเวลาหาผู้เช่า รวมทั้งไม่สะดวกรับโทรศัพท์ หรือการติดต่อกลับ รวมถึงไม่อยากเจรจากับผู้เช่าโดยตรง กระทั่งอาจไม่สะดวกที่จะนัดหมายกับผู้เช่า พาชมห้องจริงที่ปล่อยเช่า ซึ่งเอเจนท์จะเข้ามาเป็นตัวแทนหรือตัวกลางเพื่อให้บริการในส่วนนี้ แทนเจ้าของคอนโด​

-จัดการเรื่องของเอกสาร​
ในการให้เช่าคอนโดในแต่ละครั้ง อาจจะต้องจัดการเกี่ยวกับเรื่องเอกสารต่างๆ มากมาย อาทิ สัญญาเช่า ซึ่งต้องอาศัยความรู้ด้านกฎหมาย ซึ่งเอเจนท์จะมีส่วนช่วยสำคัญในส่วนนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจากการเช่าทั้งก่อน และหลังการทำสัญญา​

-ประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น​
ในการปล่อยเช่าคอนโดด้วยตัวเอง อาจทำให้เราเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หากเราลงประกาศโฆษณาผ่านช่องทางของตัวเอง หรือบางครั้งอาจลงในสื่อที่ไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ทำให้เราหาผู้เช่าได้ช้าขึ้น และหากอยู่ระหว่างการผ่อนคอนโดไปด้วย อาจทำให้เราต้องควักกระเป๋าไปเต็มๆ ระหว่างการหาผู้เช่า ซึ่งหากยิ่งช้าภาระค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้น​

-หาผู้เช่าได้ดี ไม่เสี่ยงห้องพัง​
การหาผู้เช่าหากเจ้าของคอนโดไม่มีประสบการณ์ในการปล่อยเช่ามาก่อน อาจจะลำบากในการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้เช่า ว่ารายใดเหมาะกับการเช่าคอนโดของเรา ซึ่งเอเจนท์จะมีประสบการณ์ในการคัดเลือกผู้เช่า ช่วยคัดกรองผู้เช่าว่ารายใดน่าเชื่อถือ​

สรุปแล้วบทบาทของเอเจนท์ หรือหลายคนเรียกว่า นายหน้า หรือ ตัวแทน จะเป็นตัวกลางในการเจรจา หรือประสานงานการ ซื้อ ขาย ให้เช่า โดยในกรณีหากเราต้องการปล่อยเช่าคอนโด เอเจนท์จะทำหน้าที่ในการช่วยประกาศปล่อยเช่าคอนโดแทนให้กับเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนของการลงประกาศตามช่องทางสื่อต่าง ๆ การรับติดต่อ และการเสนอห้องกับลูกค้าที่มองหาที่อยู่ เจรจาต่อรองเงื่อนไขการเช่า รวมถึงต่อรองราคาค่าเช่า และเปิดห้องพาลูกค้าที่สนใจชมห้องจริงอีกแทนเราอีกด้วย ซึ่งเราอาจจะมีค่าตอบแทนให้เอเจนท์ที่สามารถหาผู้เช่ามาได้ ดังนั้นการมีเอเจนท์จึงตอบโจทย์ มากกว่าการหาผู้เช่าเอง​

7 วิธีดูแลสัตว์เลี้ยงหน้าร้อน พร้อมวิธีคลายร้อนช่วงซัมเมอร์นี้​​

 

7 วิธีดูแลสัตว์เลี้ยงหน้าร้อน พร้อมวิธีคลายร้อนช่วงซัมเมอร์นี้​​

ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ไม่เพียงแต่เราเท่านั้นที่ร้อนจน แต่สัตว์เลี้ยงอย่างน้องหมาน้องแมวก็ร้อนไม่แพ้กัน และถ้าหากปล่อยให้สัตว์เลี้ยงร้อนจนเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพหรือเป็นอันตรายได้ วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลวิธีดูแลสัตว์เลี้ยงหน้าร้อนมาฝากกัน​

1.ห้ามทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ในรถ​
ถ้ารถไม่ได้เปิดแอร์ ในวันที่อากาศร้อน ห้ามทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ในนั้นตามลำพังเด็ดขาด อุณหภูมิในรถจะพุ่งสูงมาก อาจสูงได้มากถึง 120 องศา แม้จะมีการแง้มกระจกไว้ก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยง อาจเป็นอันตรายกับสัตว์เลี้ยงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย​

2. ระวังพื้นผิวที่สัตว์เลี้ยงเดิน​
พื้นถนนหรือคอนกรีตกลางแดด ซึ่งสามารถแผดเผาอุ้งเท้าของสัตว์เลี้ยงได้ และผิวบนพื้นเท้าของสัตว์เลี้ยงนั้นมีความอ่อนโยนอย่างมาก แนะนำให้สัตว์เลี้ยงเดินบนหญ้าหรือพื้นที่ที่มีความชุ่มชื้น​

3. อย่าพาสัตว์เลี้ยงไปผึ่งพัดลม​
สัตว์เลี้ยงมีการตอบสนองกับอากาศร้อนที่ไม่เหมือนกับคน การพาไปผึ่งพัดลมอาจไม่ได้ช่วยให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกเย็นขึ้นเท่าไหร่​

4. หมั่นเช็คอุณหภูมิน้ำที่ให้สัตว์เลี้ยง ควรเย็นอยู่เสมอ​
ถ้าเลี้ยงสัตว์เลี้ยงไว้นอกบ้าน หมั่นเติมน้ำเย็นให้กับสัตว์เลี้ยง อาจวางกะละมังเอาไว้ให้สัตว์เลี้ยงเลย และให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในบริเวณที่มีร่มเงาจากต้นไม้ หรือร่มเงาจากบ้าน จะถ่ายเทอากาศได้ดีกว่า จะดีกว่าปล่อยสัตว์เลี้ยงให้อยู่ในพื้นที่ ๆ ที่แดดจ้า และมีการระบายอากาศน้อย​

5. อาบน้ำให้สัตว์เลี้ยง​
หากไม่ค่อยได้อาบน้ำให้กับสัตว์เลี้ยง ฤดูร้อนก็อาจถือเป็นช่วงเวลาอันดีที่ควรจะอาบน้ำให้กับสัตว์เลี้ยง โดยทั่วไปแล้วสัตว์เลี้ยงไม่ได้ชอบอาบน้ำบ่อย ๆ ไม่จำเป็นต้องอาบทุกวัน หรืออย่างน้อย ๆ ก็อาจหาแหล่งน้ำเอาไว้ให้สัตว์เลี้ยง ​

6. สังเกตอาการ HEATSTROKE​
อากาศที่ร้อนจัด อาจทำให้สัตว์เลี้ยงเป็นโรค heatstroke ได้ โดยสามารถสังเกตได้จากอาการหอบ หายใจแรง หัวใจเต้นแรง มีการหายใจผิดปกติ กินน้ำเยอะมากผิดปกติ เศร้าซึม มีไข้ ดูมึน ดูเบลอ น้ำลายไหลมาก อาเจียน ลิ้นมีสีแดงเข้มหรือม่วง ชักหรือหมดสติ​

7.เลือกสวมใส่ไอเทมที่สะดวกสบายให้กับสัตว์เลี้ยง​
สำหรับในหน้าร้อนแล้ว สัตว์เลี้ยงอาจไม่เหมาะกับการแต่งตัวเพิ่มเติมแบบจัดเต็มเหมือนฤดูกาลอื่น ๆ ในกรณีที่ต้องการสวมใส่ ก็อาจจะเหลือแค่ปลอกคอเล็ก ๆ ทำจากวัสดุ เบา สบาย เพื่อให้สัตว์เลี้ยงเกิดความสบายตัว ไม่ร้อนจนเกินไป และยังสามารถป้องกันสัตว์เลี้ยงหลุดหายได้ด้วย​

7 Check List ที่มือใหม่ต้องรู้ก่อนซื้อคอนโด

 

7 Check List ที่มือใหม่ต้องรู้ก่อนซื้อคอนโด​

สำหรับมือใหม่การเลือกซื้อคอนโดครั้งแรกนั้น เหมือนจะเป็นอะไรที่หนักใจมากๆ เพราะต้องใช้เวลาในการตัดสินใจและต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม การเลือกคอนโดนั้นควรเลือกอย่างไรให้ถูกใจและคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายไป วันนี้ MDPC จะแนะนำข้อควรรู้ต่างๆ ที่ควรทราบก่อนตัดสินใจซื้อคอนโด เพื่อไม่ให้การซื้อคอนโดครั้งแรกของคุณต้องผิดหวัง มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง​

1.ทำเลที่ตั้งของคอนโด​
การเลือกทำเลที่ตั้งถือว่าปัจจัยแรกๆ ที่ทุกคนต้องหยิบมาพิจารณาในการเลือกซื้อคอนโด เพราะแสดงถึงความสะดวกสบาย การเป็นอยู่ที่ดี ความปลอดภัย นอกจากนี้ การเลือกคอนโดที่มีทำเลดี เดินทางสะดวกสบายจะก็สามารถส่งผลดีต่ออนาคต เพราะหากทำเลที่เลือกกลายเป็นแหล่งธุรกิจ การปล่อยให้เช่าหรือการขายต่อก็จะได้ราคาที่ดี เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน​

2.สถานีรถไฟฟ้า สถานีโดยสารรถประจำทางต่างๆ​
ปัจจุบันนี้มีสถานีรถไฟฟ้าหลายสถานี หลายสาย หลายจุด ดังนั้นการตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดที่ใกล้สถานีสถานีรถไฟฟ้า หรือสถานีโดยสารรถประจำทางต่างๆคอยให้บริการก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะสามารถสร้างความสะดวกสบายให้กับการเดินทางได้​

3.แบรนด์ของคอนโด​
เจ้าของโครงการหรือแบรนด์คอนโดมีผลต่อการตัดสินใจซื้อเป็นอย่างมาก เพราะคอนโดที่เป็นแบรนด์ดังก็จะมีความน่าเชื่อถือสูง ทั้งยังการันตีถึงความมีมาตรฐานในการก่อสร้าง และบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ มีปัญหาอะไรแล้วสามารถติดต่อได้สะดวก ไม่ทิ้งความรับผิดชอบ ​

4.ขนาดและประเภทห้อง​
ขนาดและประเภทของห้องควรเหมาะสมกับจำนวนผู้อยู่อาศัย หรือไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่ และต้องมั่นใจด้วยว่าห้องที่เลือกไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดคับแคบ หรือกว้างเกินไป นอกจากนั้น ขนาดของห้องก็จะมีผลต่อการคิดค่าส่วนกลางคอนโดอีกด้วย​

5.พื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวก​
ควรมองหาพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่คุ้มค่าและตรงใจ เพราะเมื่อทำการย้ายเข้าไปที่คอนโดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณจำเป็นที่จะต้องชำระค่าส่วนกลางคอนโดในทุกๆ ปี ดังนั้น ควรนำปัจจัยนี้มาพิจารณาก่อนการเลือกซื้อคอนโด และศึกษาอย่างละเอียดว่าคอนโดนั้นๆ มีพื้นที่ส่วนกลางประเภทไหนบ้าง เช่น สระว่ายน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องอ่านหนังสือ ห้องออกกำลัง ที่จอดรถ Shuttle Bus เป็นต้น​

6.สไตล์การตกแต่งห้อง​
แนะนำว่าควรเลือกการตกแต่งห้องให้เหมาะกับสไตล์และสามารถบ่งบอกความเป็นตัวเองได้มากที่สุด การเลือกห้องที่มีการจัดวางเลย์เอาท์ที่เหมาะก็จะทำให้ห้องน่าอยู่มากยิ่งขึ้น อาจจะนำความชอบและสไตล์มาเป็นปัจจัยในการพิจารณา​

7.ราคาตามงบที่ตั้งไว้​
ราคาคอนโดมักจะแตกต่างออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ทำเล ขนาดหรือประเภทของห้อง และตัวโครงการ ควรวิเคราะห์สภาพคล่องของคุณ ควบคู่ไปกับการศึกษารายละเอียดในการผ่อนชำระ รวมถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่น ๆ ในการทำสัญญาซื้อขายและการโอน เพื่อที่จะได้รู้ว่าคุณมีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนในการรับภาระค่าใช้จ่าย และค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นตัวเลขที่สมเหตุสมผลและคุ้มค่า ​

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า